บทที่ 8 ฟังก์ชันของ PHP ที่จัดเตรียมไว้


      8.1 ฟังก์ชันเกี่ยวกับสตริง
            สตริงเป็นประเภทข้อมูลชนิดหนึ่งที่ใช้เก็บข้อมูลที่มีลักษณะเป็นอักขระ หรือตัวอักษร โปรแกรมภาษาPHP ได้จัดเตรียมฟังก์ชันในกลุ่มนี้ด้วยกันหลายฟังก์ชันแต่จะขอกล่าวถึงเฉพาะฟังก์ชันที่จำเป็นเท่านั้น ดังนี้ 

             
·         addslashes
ใช้เพิ่มเครื่องหมาย \ ไว้ข้างหน้ากับตัวอักษรพิเศษ
·         chr() และ ord()
ใช้จัดการรหัสแอสกี้ของตัวอักษร
·         explode() และ implode()
ใช้แบ่งสตริงออกเป็นสตริงย่อยๆ และรวมสตริง
·         htmispecialchars()
ใช้แปลงตัวอักษรพิเศษ
·         ni2br()
ใช้แทรกแท็ก <br> หรือแท็ก <br/>
·         strcmp()
ใช้เปรียบเทียบสตริง
·         strien()
ใช้หาความยาวสตริง
·         strrev()
ใช้กลับลำดับของตัวอักษร
·         substr()
ใช้ดึงบางส่วนของสตริงออกมาจากสตริงหลัก
·         trim(), ltrim และ rtrim()
ใช้ตัดช่องว่าง แท็บ ตัวอักษรขั้นบรรทัดใหม่


ฟังก์ชัน addslashes()
       ฟังก์ชันนี้เป็นการเพิ่มเครื่องหมาย \ (Blackslash) \ ให้กับตัวอักษร 3 ตัวคือ “ ” (Double Quote) “ ”(Single Quote) และ \ (Blackslash) ตัวอย่างโปรแกรมการใช้งานสำหรับฟังก์ชัน addslashes() เป็นดังนี้












8.2  ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์
      ฟังก์ชันในกลุ่มนี้ใช้สำหรับจัดการข้อมูลประเภทตัวเลข มีฟังก์ชันในกลุ่มนี้ด้วยกันหลายตัว ดังนี้

·         abs()
ใช้หาค่าสมบูรณ์ของตัวเลข
·         max() min()
ใช้หาว่ากลุ่มของตัวเลขที่กำหนด ค่าใดมีค่ามากที่สุด ค่าใดมีค่าน้อยที่สุด
·         pow()
ใช้หาค่าเลขยกกำลัง
·         round()
ใช้ปัดเลขทศนิยม
·         sqrt()
ใช้หาค่าที่สองของตัวเลขใดๆ


  ฟังก์ชัน abs()

         ฟังก์ชันนี้ใช้หาค่าสมบูรณ์ของตัวเลข (Absolute Number) คือทำการเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นค่าบวกไม่ว่าตัวเลขที่นำมาเข้าฟังก์ชันนี้จะมีค่าติดลบหรือไม่ก็ตาม และนอกนั้นฟังก์ชันนี้ยังสามารถใช้กับตัวเลขจำนวนเต็ม หรือเลขทศนิยมก็ได้ พิจารณาการใช้งานของฟังก์ชันจากโปรแกรมต่อไปนี้





















ฟังก์ชัน Max() และ min

        ฟังก์ชันทั้งสองนี้ใช้ในการหาว่ากลุ่มของตัวเลขที่กำหนดขึ้นมาตัวเลขใดมีค่ามากที่สุด และตัวเลขใดมีค่าน้อยที่สุดตามลำดับ โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อหาราคาสินค้าที่มีราคาแพงที่สุดคือเท่าไร และราคาสินค้าที่ถูกที่สุดเท่าไร

8.3 ฟังก์ชันเกี่ยวกับวันและเวลา
       ฟังก์ชันกลุ่มนี้ใช้จัดการข้อมูลของวัน และเวลาโดยเฉพาะ เช่นใช้ดึงวันเดือนปีปัจจุบันในขณะที่ทำการประมวลผล ใช้ตรวจสอบวันเดือนปีว่ามีอยู่จริงหรือไม่ เป็นต้น ฟังก์ชันที่สำคัญ คือ 

·         checkdate()
ใช้ตรวจสอบวันเดือนปี มีอยู่จริงหรือไม่
·         date()
ใช้ดึงวันเดือนปี และเวลาปัจจุบันของเครื่อง
·         getdate()
ให้ผลลัพธ์เป็นวันเวลาปัจจุบัน
·         time()
จะคืนค่าของวัน/เวลาปัจจุบันของเครื่อง


ฟังก์ชัน checkdate()







โดยข้อกำหนดในการตรวจสอบ คือ

ปี           จะต้องอยู่ระหว่าง 1 ถึง 32767
เดือน     จะต้องอยู่ระหว่าง 1 ถึง 12

วันที่      ตรวจสอบว่าวันที่นั้นในเดือน และปีนั้นมีอยู่จริงหรือไม่